วิธีวางโครงสร้างราคาห้องพักโรงแรมเบื้องต้น
ก่อนที่จะวางโครงสร้างราคาห้องพักโรงแรม สิ่งที่ต้องทำก่อนเลยคือ ทำใจยอมรับว่าเข้าใจลูกค้าน้อยเกินไปมักง่าย ชิงสุกก่อนห่าม ที่ตามมาพร้อมคำบ่นจากลูกค้า
เหตุการแบบนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ต้องไม่ใช่มีบ่อยๆ ถ้าเข้าใจและวางแผนดี จะมีก็ต่อเมื่อมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น
มาเริ่มกันใหม่ตรงนี้
1.ต้องรู้จักประเมิณ Demand เป็นครับ ว่าวันไหนความต้องการห้องพักมากหรือน้อย จะขายได้ราคาสูงหรือต่ำ
2.ทำ Dynamic Pricing คือราคาขายไม่จำเป็นต้องคงที่ในทุกๆวัน เช่นเดียวกับราคาตั๋วเครื่องบิน
3.ต้องทำโครงสร้างราคา BAR Level 5-10 Level ขึ้นอยู่กับตลาดพื้นที่นั้นๆ (Best Avalable Rate) คือระดับราคาที่แพงสุด ยืดหยุ่นของเงื่อนไขสุดคือไม่ต้องจ่ายก่อน (Free Cancellation Charge) แต่ BAR ไม่ใช่ Rack Rate นะครับ
4.ทำโปรส่วนลด % เป็นขั้น 5,10,15,20,...
5.ให้%ส่วนลดคนที่จองล่วงหน้ามากกว่า เช่น 30, 21,14,7,5,3 วัน
6. เงื่อนไขมาก -> ให้ส่วนลดมากกว่า เช่น ถ้าจ่ายเงินเลย 100% หรือเราเรียกว่า Advance Purchase Full Prepayment non cancellation and non amendment คือยกเลิกได้นะ แต่ไม่คืนเงินที่จ่ายมาแล้ว100% และปรับเปลี่ยนบุคกิ้งไม่ได้ แบบนี้ควรจะลดมากกว่าเงื่อนไงวางมัดจำ หรือจ่ายตอนเช้คอิน
7. พอมี1-6 ข้อที่ผ่านมาแล้ว เราก็ต้องมาแพลนว่า วันไหนจะ BAR เท่าไหร่
8. วันไหน Demand สูง ก็ให้ส่วนลด%น้อยลง
9. ทำไมต้อง Advance Purchase ก็เพราะช่วยลดความเสี่ยงที่เราจะไม่ได้เงินและรับบุคกิ้งมาทดแทนไม่ทัน
นี่คือเทคนิคที่โรงแรมเชนระดับโลกใช้กัน แต่อย่าคิดว่าเราแค่ airbnb 1 ห้องจะใช้ไม่ได้
อ่านต่อหัวข้อการตั้งราคาได้ที่ คลิ๊ก
สำคัญ:
ถ้าคิดว่ามันยุ่งยากและวุ่นวาย
ผมบอกเลยว่าคนที่จะชนะเค้าชนะกันที่รายละเอียด
ส่วนคนแพ้ก็แพ้เพราะความมักง่าย
เพราะรายละเอียดมันจะสร้างรายได้ที่ดีกว่า
เอาไปทำความเข้าใจ อย่าไปจำ เพราะสถาณการณ์ต่างๆต้องพลิกแพลงให้เป็น